การดูแลแบบองค์รวม
การให้คำปรึกษา
การสร้างความสัมพันธ์ในบทบาทที่ปรึกษามีความสำคัญมากต่อความสำเร็จของนักเรียนและโครงการทุนการศึกษาของเรา เด็กทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและแม้ว่าบางคนปัญหาก็มากกว่าคนอื่น ๆ ก็ล้วนมีความฝันด้วยกันทั้งสิ้น พวกเขาเหล่านี้มีพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใครและยังมีความกล้าต่อการเผชิญกับอุปสรรค การสร้างความสัมพันธ์ในบทบาทที่ปรึกษาให้แก่นักเรียนของเรานั้น ทำให้พวกเขาจะมีแบบอย่างที่ดี และมีคนที่พร้อมจะให้คำปรึกษาทั้งเรื่องเป้าหมาย ปัญหา และกำลังใจในยามที่เขาต้องการ
ด้วยกลุ่มนักเรียนที่หลากหลาย ทั้งผู้อพยพชาวไทยและชาวเขา อุปสรรคของแต่ละคนมักจะแตกต่างกันออกไป การให้คำปรึกษาเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้พวกเขาได้รับรู้ว่ามีใครบางคนที่ห่วงใยพวกเขาทำให้เขามั่นใจ ได้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในการรับมือกับความท้าทายและอุปสรรคในแต่ละวัน มากไปกว่านั้น ยังเป็นการทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขามีความสำคัญ
นอกจากการให้คำปรึกษาแล้วนั้น นักเรียนในโปรแกรมของเรายังได้รับการสอนพิเศษและการช่วยทำการบ้าน เราเชื่อมต่อเยาวชนเข้ากับโอกาสเช่นการฝึกงานและทุนการศึกษาเพิ่มเติม เราพบกับครูเพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนของเราทำได้ดีในโรงเรียน และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการศึกษาต่อแก่เยาวชนของเรา
การดูแลเฉพาะบุคคล
การดูแลไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำเหมือน ๆ กันกับทุกคนได้ เราจึงจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้กับนักเรียนแต่ละคนเพื่อที่เขาจะได้สามารถเอาชนะอุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้าได้ และนี่คือสิ่งที่ทำให้โปรแกรมทุนการศึกษาของเราไม่เหมือนใคร
ทั่วทั้งกรุงเทพฯและภาคเหนือ นักเรียนของเราได้เข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนรัฐบาล หรือโรงเรียนในหมู่บ้าน นอกจากนี้ นักเรียนสามารถเข้าถึงกิจกรรมนอกหลักสูตร การสอนพิเศษ และการช่วยทำการบ้าน ให้เขามีโอกาสฝึกงานและได้รับทุนการศึกษาเพิ่มเติม รวมไปถึงการได้รับคำแนะนำเรื่องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอีกด้วย
การเยี่ยมชม IDC
ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีผู้ลี้ภัยประมาณ 10,000 คน อาศัยอยู่ โดยเขาเหล่านี้มาจากประเทศต่างๆ เช่น ปากีสถาน ศรีลังกา อัฟกานิสถาน ยูกันดา โซมาเลีย ฯลฯ ผู้ลี้ภัยเดินทางมาประเทศไทยเพราะวีซ่านักท่องเที่ยวมีราคาที่ไม่แพงและมีสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ตั้งอยู่ แต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่ไม่ว่าทางสหประชาชาติจะมีบริการช่วยเหลือต่าง ๆ สำหรับผู้ลี้ภัย แต่ประเทศไทยกลับยังไม่ยอมรับสถานะของพวกเขาเหล่านั้นเลย นั่นหมายความว่าครอบครัวของผู้ลี้ภัยเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่อย่างปกปิดด้วยวีซ่าที่อยู่เกินกำหนด หรือไม่เช่นนั้นก็มักจะถูกกักขังจนกว่าพวกเขาจะถูกส่งกลับประเทศบ้านเกิดของตน หรือได้รับการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่รองรับต่อไป
จากความร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ ทีมของเรามีการเยี่ยมผู้ลี้ภัยที่ถูกกักขังอยู่ในสถานกักกันเป็นประจำ นอกเหนือจากการเยี่ยมเยียนทุกสัปดาห์แล้ว ทีมงานของเรายังมอบเงินบริจาคให้กับครอบครัวที่ขาดแคลนของใช้อุปโภคบริโภคอยู่เป็นประจำด้วย เช่น อาหาร เสื้อผ้า ของเล่น และผ้าอ้อมเด็ก เป็นต้น
